เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2021 ไรอันแอร์เที่ยวบินที่ 4978 (เอเธนส์–วิลนีอุส) ถูกบังคับลงจอดที่ท่าอากาศยานแห่งชาติมินสค์ หลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลภาคพื้นดินแจ้งว่าบนเครื่องมีระเบิด ขณะเครื่องบินอยู่ห่างจากวิลนีอุสไปทางใต้ 45 ไมล์ทะเล (83 กิโลเมตร; 52 ไมล์) และห่างจากมินสค์ไปทางตะวันตก 90 ไมล์ทะเล (170 กิโลเมตร; 100 ไมล์) และยังคงอยู่ในน่านฟ้าของเบลารุส[1][2][3] ตามแถลงการณ์ของสายการบินระบุว่ากัปตันถูกสั่งให้ลงจอดที่มินสค์ เมืองหลวงของประเทศเบลารุส[4][5]

บนเครื่องบินมีลูกเรือ 6 คนและผู้โดยสาร 126 คน[2] ขณะลงจอดอยู่ที่มินสค์ รามัน ปราตาเซียวิช นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวเบลารุส ถูกนำตัวลงจากเครื่องโดยอ้างว่าเขามีรายชื่อในหมายจับของรัฐบาลเบลารุส[1][6] โซเฟีย ซาเปกา (Sofia Sapega) แฟนสาวของเขา ถูกนำตัวลงจากเครื่องเช่นกัน และต่อมาทั้งคู่ถูกทางการเบลารุสจับกุม[7] โดยปราศจากคำอธิบายเหตุผลการจับกุมแฟนสาวจากทางการ ซาเปกาซึ่งเป็นพลเมืองรัสเซียและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยมนุษยศาสตร์ยุโรปในวิลนีอุส ต่อมาได้รับการยืนยันจากมหาวิทยาลัยว่าเธอถูกรัฐบาลเบลารุสจับกุมจริง[8] เครื่องบินได้รับการติดต่อขณะกำลังเดินทางออกจากน่านฟ้าเบลารุสว่าได้รับคำสั่งจากอาเล็กซันเดอร์ ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีและผู้นำเผด็จการของเบลารุส มีคำสั่งโดยตรงให้บังคับเครื่องลงจอดที่มินสค์พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ส่งเครื่องบินไล่ล่าของกองทัพอากาศเบลารุสรุ่น MiG-29 เพื่อบังคับเครื่องบินของไรอันแอร์ลงจอดที่มินสค์[1][9][10] ในขณะที่เบียลตา สำนักข่าวของรัฐบาลเบลารุส รายงานว่านักบินเป็นผู้ขอลงจอดที่มินสค์เอง[11][12] ทั้งไรอันแอร์และเจ้าหน้าที่ของเบลารุสระบุในภายหลังว่าไม่พบระเบิดบนเครื่อง[4][5]

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้โดยสาร 3–4 คนซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมาธิการความมั่นคงเบลารุสลงจากเครื่องที่มินสค์และไม่เดินทางต่อไปยังวิลนีอุสต่อ[13][14] สเวียตลานา ซีคานอว์สกายา ผู้นำฝ่ายค้านเบลารุส ได้เรียกร้องให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) ดำเนินการตรวจสอบกรณีนี้โดยด่วน[15] ปราตาเซียวิชมีชื่ออยู่ในรายชื่อบุคคลที่ "มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจกรรมก่อการร้าย" ในปีที่แล้ว จากบทบาทของเขาในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของลูกาเชนโก และเขาอาจต้องถูก "โทษประหารชีวิต" หากเดินทางกลับเข้ามาเบลารุส[16]